โลกร้อน
โลกร้อน คือ เกิดจากการที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปล่อยโดยมนุษย์สู่เปลือกนอกของชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นตัวปิดกั้นความร้อนไม่ให้คลายออกได้และสะท้อนกลับมาสู่โลก ตั้งแต่ Al Gore อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้มาสร้างภาพยนตร์รณรงค์เรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นผลทำให้เรื่องโลกร้อนได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางขึ้นรวมทั้งประเทศไทยด้วย
ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีการพูดมานานแล้วแต่ไม่มีใครสามารถปลุกกระแสความสนใจได้เท่า Al Gore ถ้าลำพังนักวิชาการมาพูดก็อาจจะไม่ได้รับความสนใจเท่ากับรองประธานาธิบดีพูด อย่างไรก็ตามต้องยกย่อง Al Gore ว่าเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ทำให้คนทั้งโลกตื่นตัวมาให้ความสนใจเรื่องโลกร้อน ซึ่งที่จริงก็เป็นปัญหาของคนทั้งโลก และคนทั้งโลกก็จะลำบากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่จัดการกับเรื่องนี้เร็วพอ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกร้อนน่าจะเกิดขึ้นจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศ เนื่องจากการผลิตพลังงานที่มาจากเชื้อเพลิงปิโตรเลียมหรือถ่านหินเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่มนุษย์ อาทิเช่น การใช้พลังงานน้ำมันมาขับเคลื่อนรถยนต์และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา, การใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อให้ความเย็นในห้องทำงานหรือห้องนอนซึ่งต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน และพลังไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็ได้มาจากการเผาน้ำมันปิโตรเลียมหรือถ่านหิน (Fossil Fuel) ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาสู่บรรยากาศ
การขับรถและการใช้เครื่องปรับอากาศของมนุษย์น่าจะเป็น 2 สาเหตุหลัก ๆ ของการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่ก็ยังมีเรื่องอ้อมอีกหลายอย่างที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ เช่น การผลิตภาชนะที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (Disposable packaging) ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะและยังต้องใช้พลังงานในการที่จะผลิตสิ่งของที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง รวมทั้งการทำลายภาชนะเหล่านี้ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือเอาภาชนะเหล่านั้นไป Recycle ก็ยังต้องใช้พลังงานในการ Recycle ด้วย
การผลิตส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็มักใช้เครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือน้ำมัน หรือแก๊ส ซึ่งก็มีผลทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศทั้งสิ้น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังลม เป็นวิธีหนึ่งที่จะลดหรือชะลอการเกิดภาวะ โลกร้อนได้ แต่เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาราคาน้ำมันยังมีราคาถูก และต้นทุนของการนำเอาพลังงานจากธรรมชาติยังมีราคาสูงเมื่อเทียบกับการใช้พลังงานจากน้ำมัน ทำให้ยังไม่คุ้มที่จะใช้พลังงานธรรมชาติเหล่านี้ และเทคโนโลยีที่จะใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติให้ถูกลงยังมีไม่เพียงพอ
มาตรการที่ต้องเกิดขึ้นในระดับโลกก็คือ
- เร่งพัฒนาการผลิตพลังงานจากพลังธรรมชาติให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็วและในต้นทุนที่ถูกลง
- ลดการใช้สิ่งของฟุ่มเฟือยที่ต้องใช้พลังงานในการผลิตทุกชนิด
- ลดการใช้ภาชนะที่ใช้แล้วทิ้งที่ทำให้เกิดขยะและใช้พลังงานในการผลิต
- ลดการบริโภคทุกอย่างที่ไม่จำเป็น เพราะการบริโภคอะไรที่เกินความพอเพียงเป็นการใช้พลังงานโดยใช่เหตุทั้งสิ้นและก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
ผมเห็นอยู่สี่เรื่องที่คนไทยจะทำได้และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างมีนัยสำคัญก็คือ
- ลดการเดินทางโดยใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด และหันมาขี่จักรยานแทน
- ใช้เครื่องปรับอากาศในบริเวณที่เล็กที่สุด โดยใช้เครื่องปรับอากาศให้พอเหมาะกับเตียง (ไม่ใช่พอเหมาะกับห้อง ที่ใช้เครื่องปรับอากาศไม่เกิน 2,000 BTU/hr.) หรือใช้พัดลม หรือไม่ใช้เครื่องปรับอากาศเลย
- เปลี่ยนการใช้ภาชนะจากใช้แล้วทิ้งมาเป็นภาชนะที่ล้างแล้วเอามาใช้ใหม่ได้ และลดการใช้กระดาษทุกชนิด
- สนับสนุนให้ปลูกต้นไม้ในทุกที่ไม่ว่าในป่าหรือในเมือง
- ลดการเดินทางโดยใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด
- เดินทางโดยขนส่งมวลชนแทนการขับรถ ฉะนั้นจะต้องพัฒนาการเดินทาง ด้วยขนส่งมวลชนให้สะดวกขึ้นและใช้เวลาสั้นลง
- ลดการอยากไปซื้อของนอกบ้าน เปลี่ยนมาซื้อแบบส่งถึงบ้านแทน
- เดินทางด้วยเท้าหรือขี่จักรยานแทนการขับรถ
- เพิ่มทางวิ่งของจักรยาน (Bike track) ให้มากขึ้น
- จัดให้มีที่จอดจักรยานที่ปลอดภัย
- สนับสนุนให้ขี่จักรยานแทนการขี่มอเตอร์ไซค์
- เครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับเตียง
- ออกแบบและสร้างเครื่องปรับอากาศขนาดเท่าเตียง
- ทดสอบการใช้งานโดยทำตัวอย่างขึ้นมาหลาย ๆ ชุด
- หาแหล่งผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- โฆษณาการใช้และการประหยัด
- ใช้ Presenter มาแนะนำและโฆษณาโครงการและผลิตภัณฑ์
- ลดการใช้ภาชนะที่ใช้ครั้งเดียว
- แนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษต่าง ๆ ให้ประหยัดมากขึ้น หรืองดการใช้ไปเลย
- เพิ่มภาษีสินค้าที่ใช้ภาชนะที่ใช้ครั้งเดียว
- ลดภาษีสินค้าที่ภาชนะใช้ได้หลายครั้ง
- ใช้รถบรรทุกเปล่าขนภาชนะกลับบริษัท
- ลดภาษีเครื่องล้างภาชนะ
- ลดภาษีการผลิตภาชนะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
- สนับสนุนให้คนไม่ขอถุงพลาสติกในการซื้อของ ใช้ถุงผ้าแทน
- มีการรณรงค์การใช้ภาชนะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
- ปลูกต้นไม้ในป่าและในเมือง
- จัดให้มีการรณรงค์ปลูกต้นไม้ในโอกาสต่าง ๆ
- ออกกฎหมายให้มีการลงโทษผู้ทำลายป่าให้หนักขึ้น
- สนับสนุนให้ปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านและบนดาดฟ้าให้มากขึ้น
- สนับสนุนให้ปลูกต้นไม้เพื่อใช้เป็นพลังงานชีวมวล
- สนับสนุนให้ชาวนาชาวสวนและเจ้าของที่ดินปลูกต้นไม้ในที่ดินที่ว่างอยู่
- ให้องค์กรที่สนับสนุนในการปลูกป่า และองค์กรที่ส่งเสริมธรรมชาติ สามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้
ที่มา นสพ. กรุงเทพธุรกิจ : คอลัมน์ 20 CEOs 20 IDEAs
วันที่เขียน 01/12/2007 วันที่ตีพิมพ์ 15/10/2008
บันทึกบทความเมื่อ 15/10/2008 08:49:37 โดย Narin
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 15/10/2008 08:49:37 โดย Narin