ไม่กลัว ไม่มีปัญหา ไม่เหนื่อย
ผมผ่านการประชุมในชีวิตการทำงานเป็นพันๆครั้ง แต่ละครั้งผมจะได้บทเรียนจากการเป็นผู้เข้าร่วมประชุมหรือเป็นประธานในที่ประชุมโดยตลอด ผมปรับเปลี่ยนวิธีประชุมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และบางครั้งก็ต้องปรับใจ ให้มีความอดทนที่ประชุมเรื่องเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะผู้เข้าประชุมยังไม่เข้าใจหรือเอาไปทำงานไม่ได้ หรือมีผู้เข้าร่วมประชุมใหม่ๆ หลายคนสงสัยว่าทำไมผมถึงมีความอดทนในการที่จะแนะนำผู้บริหารหรือพนักงานมากขนาดนี้ ผมได้ตอบว่า “เพราะผมหวังดีต่อเขาอยากให้เขาประสบความสำเร็จในงานในอนาคต โดยเขาสามารถคิดเองได้ ไม่ต้องมีคำแนะนำจากผม”
จากประสบการณ์ที่ได้ประชุมมามาก ได้พบกับผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่เวลาประชุมชอบพูดคำว่า “กลัวนั่น กลัวนี่” บางคนทั้งการประชุมพูดคำว่ากลัว 20 – 50 ครั้ง บางคนก็ชอบพูดคำว่า “ปัญหา” บางคนในการพูด 3 ประโยคพูดคำว่าปัญหาสัก 4 ครั้ง ทั้งประชุมพูดคำว่า ปัญหา ได้สัก 50 ครั้ง บางคนก็ชอบพูดคำว่า “ไม่รู้” หรือใช้เป็นคำเริ่มต้นประโยคว่า “ไม่รู้นะ” บางคนก็ชอบพูดคำว่า “เหนื่อย” ชอบพูดว่า “ทำนั่นก็เหนื่อย ทำนี่ก็เหนื่อย” หรือชอบพูดว่า ทำเรื่องนี้เหนื่อยแน่ บางคนพอคิดเรื่องอะไรใหม่ๆ ได้ก็จะบอกว่า “ยาก” ผมคิดว่าถ้าเราคิดว่ายากไว้ก่อนส่วนใหญ่จะไม่ได้เริ่มทำ หรือทำก็มีโอกาสสำเร็จยากตามที่คิด
ตอนช่วงวิกฤติการณ์ปี 1997 – 2000 เป็นช่วงที่ท้อถอยมาก เพราะเงินเดือนก็ลด งานก็มากความสำเร็จมองไม่ค่อยเห็น ก็เลยเกิดคำว่า “ไม่ท้อ” และช่วงวิกฤตนี้งานก็เร่งรัดมาก ประชุมก็มาก การเตรียมงานเกือบไม่มีเวลาเตรียมเลย หลายๆคนก็จะบอกว่า “เครียด” ผมเลยต้องถ่วงดุลโดยบอกว่า “ไม่เครียด” นี่จึงเป็นที่มาของ
ไม่กลัว ไม่เหนื่อย ไม่ท้อ ไม่มีปัญหา ไม่ยาก ไม่เครียด
ที่ผมบอกกับตนเองอย่างได้ผลมาจนทุกวันนี้ ทำให้เกิดศักยภาพในตนเองสูงขึ้นมาก และผู้บริหารที่เข้าใจวิธีสั่งจิตแบบที่ผมทำก็น่าจะประสบผลสำเร็จ มีผลงานที่ดีได้ด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ – ยกเครื่องความคิด
วันที่เขียน 02/02/2005 วันที่ตีพิมพ์ 02/02/2005
บันทึกบทความเมื่อ 06/09/2007 17:27:28 โดย Narin
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 06/09/2007 17:27:28 โดย Narin