คนส่วนใหญ่ไม่เคยคิดเรื่องหลักคิด ไม่ค่อยได้ทบทวนนิสัยของตนเอง คนส่วนใหญ่คิดแค่จะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข หรือบางคนแค่คิดว่าจะให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยได้อย่างไร นักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ก็คิดว่าจะหาความรู้เพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตนเอง และความรู้ต่างๆ ส่วนมากก็เป็นวิธีการที่ทำให้ ตนเองก้าวหน้าจะมีสักกี่คนที่คิดจะเปลี่ยนหรือพัฒนาตนเอง จากคนที่ไม่ค่อยมีหลักคิดให้เป็นคนที่มีหลักคิดที่ดีสามารถทำให้ตนเองเป็นคนที่ดีขึ้น มีประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม
คนจำนวนมากชอบพูดและชอบคิดดังต่อไปนี้
1) ฉันเป็นคนใจร้อน
2) ฉันเป็นคนขี้อาย
3) ฉันเป็นคนขี้น้อยใจ
4) ฉันกลัวผี
5) ฉันไม่ชอบให้ใครมาสอน
6) ฉันเรียนรู้ช้า
7) ฉันไม่เก่งคณิตศาสตร์
8) ฉันไม่กล้าพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก
9) ฉันไม่ชอบภาษาอังกฤษ
10) ฉันกลัวที่จะเข้าหาผู้ใหญ่
11) ฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจ
12) ฉันไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
13) ฉันไม่ชอบให้ใครว่า
14) ทำอะไรต้องดี ถ้าไม่ดีไม่ทำ
15) ถ้าฉันชอบอะไรก็จะซื้อไม่ว่าจะแพงเท่าไร
16) ฉันเป็นคนขี้เกียจ
17) ฉันกลัวความผิดหวัง
18) ฉันเป็นคนใจอ่อน
19) ฉันเป็นคนขี้สงสาร
20) ฉันเป็นคนขี้รำคาญ
21) ฉันเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้
22) ฉันเป็นคนขี้ร้อน
23) ฉันเป็นคนขี้หนาว
24) ฉันไม่ชอบออกกำลัง
25) คิดจะทำอะไรต้องทำให้ได้
26) คิดอยากได้อะไรต้องได้
27) ฉันเป็นคนเชื่อคนยาก
28) ฉันจะทำเฉพาะสิ่งที่ฉันคิดเองเท่านั้น
29) ฉันคิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครรักเราจริง
ความคิดที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ บางคนอยู่ในระดับรับรู้ของจิตสำนึก บางคนก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนที่มีความคิดแบบนี้ เพราะอยู่ในระดับจิตใต้สำนึก แต่ถ้าดูในเชิงสังเกตจะสามารถบอกได้ว่าแต่ละคนมีความคิดแบบนี้ทั้งหมด ข้างต้นนี้เป็นตัวอย่างของความคิดที่อยู่ในคนทั่วไป แต่จะมีสักกี่คนที่คิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น หรือให้เหมาะสมมากขึ้นกับงานที่ทำ หรือเหมาะสมกับชีวิตของตนเองในอนาคต หรือทำให้ตนเองเป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้นคนที่อ่านปรัชญาหรือหลักคิด คติพจน์ที่ดีๆของคนดีบ่อยๆ ก็อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่า เขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนในเรื่องใด ถ้าตั้งใจจะเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้นก็จะนำหลักคิดที่ดีๆ จากผู้อื่นมาคิด มาพูด มาเป็นแนวทาง และคิดบ่อยๆ จนตนเองจะเปลี่ยนได้ในเรื่องนั้น แต่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาคิด
เรื่องเหล่านี้น้อยมาก จึงไม่ค่อยเปลี่ยนกันหรือเปลี่ยนน้อยมากโดยเฉพาะในทางที่ดีขึ้น ส่วนมากจะยึดติด ยึดมั่นกับความคิดของตนเอง และยืนยันกับตนเองเสียด้วยซ้ำว่าจะไม่เปลี่ยนเพราะถ้าเป็นความเชื่อ ความคิดของตนเองแล้วไม่ควรเปลี่ยนง่ายๆ
สำหรับผมเองนั้น ผมมีความคิดมาอย่างไรก็ตาม ถ้ามีใครมาให้ความคิดผมจะปล่อยวางจากความคิดของตนเอง และจะฟังความคิดของผู้นั้น และถ้าดีผมจะปฏิบัติตามนั้นอย่างไม่มีทิฐิว่าเป็นความคิดของคนอื่น และถ้าเปลี่ยนแล้วดีจะยกย่องว่าความคิดนั้นมาจากความคิดที่คนนั้นๆ ให้มาด้วย
อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนความคิดของเราได้ก็คือ คิดว่า ความคิดที่เรามีนั้นเป็นประโยชน์แก่ตัวเรา เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นอย่างไร และถ้าเปลี่ยนเป็นความคิดใหม่ ตัวเองและคนอื่นจะดีขึ้นหรือไม่อย่างไรเช่นความคิดที่ว่า ไม่มีใครรักเราจริง ถามตนเองว่าความคิดอย่างนี้ ถ้าคิดต่อๆ ไป จะมีคนมารักเรามากขึ้นหรือไม่ ถ้าคิดว่ามีคนเขารักเรามากขึ้นทุกวัน จะทำให้โอกาสที่คนจะรักเรามากขึ้นหรือไม่อย่างไรเมื่อเทียบกับความคิดเดิม
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ – ยกเครื่องความคิด
วันที่เขียน 02/02/2005 วันที่ตีพิมพ์ 02/02/2005
บันทึกบทความเมื่อ 06/09/2007 17:16:04 โดย Narin
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 06/09/2007 17:18:30 โดย Narin