7 Ps ในการประเมินการตลาด
ในวิชาการตลาด ปกติผู้ที่เข้าไปเรียนเรื่องการตลาดจะได้รับรู้ว่า Marketing Mix หรือส่วนผสมทางการตลาดมี 4 Ps คือ Price ราคา Place สถานที่ Product สินค้า Promotion การส่งเสริมการขาย ผมก็รับรู้ Marketing Mix นี้มาก่อนจาก การที่ไปฟังอบรมทางการตลาด จากอาจารย์ทางด้านการตลาด แต่หลังจากที่ได้พิจารณาสถานการณ์การตลาดมาตลอด 20 กว่าปี ผมพบว่าการแข่งขันในเชิงการตลาดนั้นสูงขึ้นทุกวันๆ จนผมมีความรู้สึกว่า 4 Psนั้นไม่น่าจะละเอียดอ่อนเพียงพอ สำหรับในยุคปัจจุบันการตลาดเป็นเรื่องของคน เรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภค เรื่องของจิตใจ เรื่องของกระแสความนิยม เรื่องของความชอบ ความไม่ชอบ เป็นเรื่องที่มีความคิด สร้างสรรค์อยู่ในระดับที่มากพอสมควรในอันที่จะทำให้การตลาดเกิดผลสำเร็จได้ จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า ส่วนผสมทางการตลาดที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นน่าจะมี 7 Ps คือ Product Price Place Promotion Presentation People และ Pisadarn มีนักการตลาดหลายท่านบอกว่าต้องมี P Packaging ซึ่งผมคิดว่า Packaging เป็นส่วนหนึ่งของ P Presentation บางท่านบอกว่ามีเรื่องของ Process ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นส่วนผสม ทางการตลาด น่าจะเป็นวิธีปฏิบัติการในเชิงการตลาดมากกว่า
ผมขอกล่าวถึง P 3 Ps ที่ผมนำเสนอ P อื่นเราคงจะได้ยินกันมามากแล้ว ผมจึงขอนำเสนอ 3 Ps ที่เหลือดังนี้
P Presentation ก็คือการดูดีของบรรจุภัณฑ์ (Packaging) การดูดีของการโชว์ สินค้า (Display) รวมทั้ง Visibility ซึ่งก็คือการทำให้ผู้บริโภคได้เห็น ได้ยิน ได้รับทราบถึงตัวสินค้าและแบรนด์นั้นๆ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนในวิธีการ พอสมควรจึง จัดเป็น P ตัวหนึ่งในส่วนผสมทางการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ (รวมทั้งวิธีนำเสนอ สินค้าให้ผู้บริโภคก็อยู่ใน P นี้ด้วย) ถ้ามีแค่ 4 Ps P Promotion จะคลุมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ถ้ามี 7 Ps การโฆษณาประชาสัมพันธ์จะอยู่ใน P Presentation
P People นี้คือการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภค ศึกษาทำความเข้าใจผู้บริโภคในแบบมวลรวม Mass Behavior และแบบปัจเจกบุคคล Individual Behavior (ซึ่งผมจะอธิบายในบทต่อๆ ไป) P People ยังรวมไปถึง Staff ผู้เกี่ยวข้องกับการตลาดเพราะการทำการตลาดบางผลิตภัณฑ์บุคลากรต้องอาศัยการประชิดตัว Personal Contact เช่น การขายรถยนต์ การขายบ้าน และ Direct Sale ต่างๆ เป็นต้น
การอบรมบุคลากร (Training) ให้มีความสามารถในเชิงการตลาดมีส่วนสำคัญมาก และ P People ยังรวมไปถึงลูกค้า เจ้าของร้าน ผู้บริหารของห้างสรรพสินค้า ซึ่งเราต้องมี ปฏิสัมพันธ์ให้ดีด้วยจึงจะทำให้สินค้าประสบผลสำเร็จ
P Pisadarn ซึ่ง P นี้คงจะเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับคนไทยเพราะภาษาฝรั่งคงไม่มีคำว่า “พิสดาร” แต่ที่จริงก็คือในทางการตลาดสมัยใหม่ ความแปลกใหม่ ความแตกต่าง มีความสำคัญมาก ผู้ที่ทำการตลาดแล้วสำเร็จต้องมีสิ่งที่แตกต่างเพราะสินค้าในปัจจุบันมีจำนวนมาก คุณภาพก็ทัดเทียมกัน ความแตกต่างที่ถูกใจผู้บริโภคจึงมีส่วนสำคัญมาก แค่มีสินค้ามีคุณภาพดีอย่างเดียว ไม่พออีกต่อไปเพราะนักการตลาดในปัจจุบันอยู่ในภาวะตลาดของผู้ซื้อ Consumers’ market ถ้าพูดในภาษาเศรษฐศาสตร์ ก็ต้องพูดว่า Supply มากกว่า Demand จึงเป็น Buyers’ market ความคิดสร้างสรรค์ในสินค้า มีดีไซน์ที่แปลกตา ประโยชน์ใช้สอยที่โดดเด่น หรือที่คู่แข่งยังไม่ได้ทำ ฉะนั้นคำว่า P Pisadarn จึงมีความสำคัญมากในการตลาดยุคปัจจุบัน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ – บทความการตลาด
วันที่เขียน 02/02/2005 วันที่ตีพิมพ์ 02/02/2005
บันทึกบทความเมื่อ 13/07/2006 โดย webmaster
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 13/07/2006 โดย webmaster