ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนไม่เคยคิดทบทวนว่าตนเองมีอิทธิพลต่อความคิดของเด็กมากน้อยแค่ไหน ทั้งทางบวกหรือทางลบ
แค่อยากให้เด็กทำตาม โดยไม่ได้ถามว่า สิ่งที่จะให้เด็กทำตามนั้น เด็กพร้อมหรือยัง
เด็กทำวิธีอื่นได้ไหม หรือควรที่จะให้เด็กทำตามเราในเรื่องนั้น ๆ หรือไม่
ได้แต่คาดหวังว่าเด็กจะทำตาม และพอใจถ้าเด็กจะทำตาม
เด็กหลาย ๆ คนก็ไม่ค่อยได้ใช้ความคิดพิจารณาว่าควรทำหรือไม่ควรทำตาม แค่รับรู้ว่าผู้ใหญ่อยากให้ทำ
บางคนอาจทำบ้างไม่ทำตามบ้าง
บางคนก็ไม่ทำตามเลยสักอย่าง
บางคนก็อาจทำตามทุกอย่าง
การที่ผู้ใหญ่อยากให้เด็กทำตามนั้น ถ้าเกิดจากความเชื่อว่าถ้าเด็กทำตามแล้วจะเกิดผลดีสำหรับเด็ก อย่างนี้ก็พอรับได้ แต่ถ้าผู้ใหญ่ที่ไม่ใช้ปัญญา ใช้แต่อัตตา ฉันอยากให้ทำ เธอก็ต้องทำ อย่างนี้ไม่ดีแน่
บางครั้งผู้ใหญ่คิดอะไรได้ก็อยากจะให้เด็กคิดได้ด้วย ทั้ง ๆ ที่บางทีเด็กยังเล็กเกินไปที่จะมีความคิดเหล่านั้นได้ ทำให้ในระยะยาว เด็กอาจจะเกิดความไม่ปกติทางจิตได้
โดยเฉพาะว่าถ้าผู้ใหญ่ใช้วิธีในแง่ลบ เช่น ต่อว่าหรือด่าว่าถ้าเด็กไม่ทำ หรือเอาเด็กนั้นไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นที่เก่งกว่า จะทำให้เด็กเกิดมีปมด้อยขึ้นได้
แทนที่ผู้ใหญ่จะใช้วิธีชี้นำหรือสั่งให้เด็กทำตามที่ตนต้องการ ขอให้เปลี่ยนมาใช้วิธีตั้งคำถามให้เด็กตอบ
ถ้าเด็กยังไม่ตอบทันที ก็ให้เขาไปคิดแล้วค่อยมาตอบ หรือเมื่อมีโอกาสก็ถามใหม่ ก็จะเป็นการฝึกให้เด็กได้ใช้ความคิด ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสมองของเด็กต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ก็ต้องถือว่านี่เป็นกุศโลบายในการสอนและพัฒนาเด็กไปในตัว
แต่ผู้ใหญ่ก็ต้องเตรียมตัวซักซ้อมวิธีการให้คล่องให้พร้อมด้วย
วิธีนี้ ผู้บริหารที่มีลูกน้องใช้ได้ด้วย เพราะมีลูกน้องบางคนที่ไม่ชอบคิด ชอบให้สั่ง
และก็มีหัวหน้าบางคนที่ชอบสั่ง แต่ไม่ชอบถามให้ลูกน้องคิด
ถ้าจะดีก็สั่งบ้าง ถามบ้าง จะทำให้คนพัฒนาดีขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ใหญ่หรือหัวหน้าก็ต้องต่อสู้กับความเคยชิน โดยการสร้างวินัยให้ตัวเองขึ้นมาใหม่ ยกตัวอย่างเช่น
- ในกรณีที่ลูกชอบเที่ยว
ก็ให้ถามว่า นอกจากเที่ยวแล้วมีอะไรที่น่าจะทำอื่น ๆ อีกนอกจากเที่ยว?
- ในกรณีลูกไม่ชอบทำการบ้าน
ก็ให้ถามว่า การทำการบ้านมีข้อดีอะไรบ้าง?
- ในกรณีลูกชอบตื่นสาย
ก็ให้ถามว่า การตื่นเช้ามีข้อดีอะไรบ้าง?
- ในกรณีที่ลูกชอบโกหก
ก็ให้ถามว่า การพูดความจริงมีข้อดีอะไรบ้าง?
- ในกรณีที่ลูกชอบแกล้งเพื่อน
ก็ให้ถามว่า ถ้าไม่แกล้งเพื่อนและดีกับเพื่อนจะมีผลดีกับตนเองอย่างไร?
- ในกรณีมีลูกน้องที่ไม่ยอมใช้ความคิด
ก็ให้ถามว่า ถ้าใช้ความคิดเยอะ ๆ จะมีประโยชน์อย่างไร?
- ในกรณีที่ลูกน้องไม่สู้งาน
ก็ให้ถามว่า ถ้าสู้งานจะเกิดประโยชน์แก่ตัวเองอย่างไร?
- ในกรณีที่ลูกน้องชอบคิดลบ
ก็สอนให้เข้าใจเรื่องคิดบวก แล้วถามว่า คิดบวกน่าจะมีประโยชน์ต่อคนที่คิดอย่างไร?
- ในกรณีที่ลูกน้องเห็นแต่ปัญหา
ก็ให้ถามว่า ในปัญหามีโอกาสอะไรบ้าง?
- ในกรณีที่เป็นคนที่ขี้ขลาดขี้กลัว
ก็ให้ถามว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นกล้าได้กล้าเสีย จะมีประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร?